วิธีทำ แกงเผ็ดหมูใส่มะเขือ ให้มะเขือไม่ดำ แกงแบบโบราณ กะทิหอมมัน Thai Pork Curry l กินได้อร่อยด้วย

แกงเผ็ดหมูใส่มะเขือเป็นอาหารจานเดียวที่มีทั้งความหอมกระทิและรสเผ็ดที่สุดๆของอาหารไทย แต่บางครั้งเราอาจพบเจอปัญหาที่มะเขือจะดำหลังจากต้มแกง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีทำแกงเผ็ดหมูใส่มะเขือให้มะเขือไม่ดำและใช้วิธีการทำแบบโบราณกับกะทิหอมมันที่ทำให้แกงมีรสชาติที่อร่อยและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

สารบัญ

ส่วนประกอบ

วิธีทำ แกงเผ็ดหมูใส่มะเขือ ให้มะเขือไม่ดำ แกงแบบโบราณ กะทิหอมมัน Thai Pork Curry l กินได้อร่อยด้วย - YouTube

ส่วนผสม

  • หมูสับ – 500 กรัม
  • มะเขือเทศ – 1 ถ้วย
  • พริกขี้หนูแดง – 5 เม็ด
  • พริกขี้หนูเขียว – 5 เม็ด
  • กระเทียม – 5 กลีบ
  • หอมแดง – 1/2 ถ้วย
  • ใบมะกรูด – 5 ใบ
  • ขิง – 1 ชิ้นเล็ก
  • ผักชีฝรั่ง – 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา – 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ – 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะพร้าว – 1 ถ้วย
  • กะทิ – 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า – 1 ถ้วย
  • ข้าวเหนียว – 1 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ทำเครื่องปรุงแกงเผ็ดโบราณ โดยใช้กะทิ 1/2 ถ้วย ตั้งไฟปานกลาง ใส่พริกขี้หนูแดง พริกขี้หนูเขียว กระเทียม ขิง และหอมแดงลงไปผัดจนหอม จากนั้นใส่ใบมะกรูด และผักชีฝรั่งลงไปผัดจนเหี่ยว ปิดไฟแล้วนำไปปั้นให้ละเอียดๆ
  2. ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า 1 ถ้วย ใส่หมูสับลงไปต้มจนสุก และใส่มะเขือเทศลงไปต้มจนสุก โดยใช้ไฟปานกลาง
  3. ใส่เครื่องปรุงที่ได้ปั้นไว้ลงไปในหม้อ และตั้งไฟขึ้นเป็นไฟกลาง ตามด้วยการใส่กะทิ 1 ถ้วย และน้ำมะพร้าว 1 ถ้วย ต่อไป ต้มจนเดือด
  4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยการใส่ใบมะกรูดและผักชีฝรั่งลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ

วิธีทำแกงเผ็ดหมูใส่มะเขือให้มะเขือไม่ดำ

สูตร แกงเผ็ดหมูใส่มะเขือ พร้อมวิธีทำโดย Janeojane - Wongnai Cooking

  1. เมื่อได้มะเขือเทศมาแล้ว หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และนำไปแช่น้ำเกลือประมาณ 10 นาที จากนั้นนำมะเขือออกมาพักไว้
  2. หลังจากนั้น ต้มมะเขือเทศในน้ำเปล่า 1 ถ้วย จนสุก โดยอย่าใช้ไฟที่แรงเกินไป หลังจากนั้น ตักมะเขือเทศออกมาพักไว้และเก็บน้ำเปล่าไว้ใช้
  3. ในการทำแกงเผ็ดหมูใส่มะเขือ เราต้องใช้มะเขือเทศที่สีสวยเขียวเข้ม ดังนั้นในกรณีที่มะเขือเทศมีสีเขียวอ่อนๆ เราจะต้องเตรียมน้ำปลาเพิ่มเติมขึ้นมาใช้
  4. เมื่อต้มหมูสับและมะเขือเทศจนสุกแล้ว ให้เติมเครื่องปรุงแกงเผ็ดโบราณที่เตรียมไว้ลงไป พอเครื่องปรุงสุกแล้ว ให้เติมกะทิที่เหลือและใบมะกรูดและผักชีฝรั่ง คนให้เข้ากัน ปิดไฟ
  5. ใส่มะเขือเทศที่แช่น้ำเกลือลงไปในแกงเผ็ดหมู ตั้งไฟอ่อนๆ คนให้เข้ากัน และตรวจสอบรสชาติให้ถูกต้อง หากไม่เพียงพอให้เติมน้ำปลาหรือเกลือเพิ่มตามชอบ
  6. ใส่ใบผักชีลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ และเสิร์ฟแกงเผ็ดหมูใส่มะเขือที่ไม่ดำพร้อมกับข้าวเหนียวอร่อยๆ

คำถามที่พบบ่อย

ใช้มะเขือเทศชนิดไหนในการทำแกงเผ็ดหมูใส่มะเขือให้มะเขือไม่ดำ?

ควรใช้มะเขือเทศชนิดที่มีสีเขียวเข้ม เพราะมะเขือเทศชนิดนี้จะไม่เปลี่ยนสีเมื่อต้มแกง

ใช้วิธีการทำแบบโบราณเพื่อเพิ่มรสชาติให้แกงอร่อยขึ้น ถ้าไม่มีเครื่องปรุงแกงเผ็ดโบราณใช้เครื่องปรุงแกงเผ็ดปกติได้ไหม?

ใช้ได้ แต่อาจจะไม่ได้รสชาติแกงเผ็ดโบราณแท้จริง

สามารถใส่เนื้อไก่หรือเนื้อเป็ดแทนหมูได้หรือไม่?

ได้ แต่อาจจะต้องปรับเวลาการต้มให้เหมาะสมกับเนื้อที่ใช้

หากไม่ชอบกะทิหอมมัน สามารถใช้น้ำมันพืชแทนได้หรือไม่?

ได้ แต่รสชาติและความหอมของแกงจะไม่เหมือนกับแกงเผ็ดหมูใส่มะเขือแบบโบราณ

สามารถเก็บแกงเผ็ดหมูใส่มะเขือไว้ในตู้เย็นได้นานเท่าไหร่?

ไม่ควรเก็บนานเกิน 2-3 วัน โดยควรเก็บในภาชนะที่ไม่มีอากาศเข้าออกเพื่อป้องกันการเน่าเสียของอาหาร
< id=”title” class=”style-scope ytd-watch-metadata”>

#แกงเผ็ดหมู
ส่วนผสม
– เนื้อหมู 350 กรัม
– มะเขือเปราะ 300 กรัม
– มะเขือพวง 50 กรัม
– ใบมะกรูด 3 กรัม
– ใบโหระพา 15 กรัม
– พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม
– หัวกะทิ 500 ml.
– หางกะทิ 600 ml.
– พริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
—————————————————–
ingredient/recipe – Thai Pork Curry
– 350 g. pork
– 300 g. eggplant
– 50 g. turkey berry
– 3 g. kaffir lime leaves
– 15 g. thai basil
– 20 g. red pepper
– 500 ml. thick coconut milk
– 600 ml. thin coconut milk
– 3 tbsp. thai red curry paste
– 1 1/2 tbsp. palm sugar
– 3 tbsp. fish sauce
—————————————————–
สูตรและเมนูอื่นของผม

/ @gindaiaroiduay
—————————————————–
เชิญพูดคุย เสนอแนะร่วมกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/กินได้อร่อยด…
—————————————————–
ติดต่องาน
e-mail : gindaiaroiduay@gmail.com
—————————————————–
#แกงเผ็ดหมูใส่มะเขือ
#แกงหมูมะเขือเปราะ
#แกงเผ็ดหมู

เนื้อหาของวิดีโอ วิธีทำ แกงเผ็ดหมูใส่มะเขือ ให้มะเขือไม่ดำ แกงแบบโบราณ กะทิหอมมัน Thai Pork Curry l กินได้อร่อยด้วย

สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกแล้วนะครับกับ Channelกินได้อร่อยด้วยเดี๋ยววันนี้เราจะมาทำแกงหมูมะเขือเปราะกันครับก่อนอื่นเขามาเตรียมในส่วนของมะเขือเปราะก่อนเลยครับเทคนิคที่จะทำให้เราหั่นมะเขือเปราะแล้วมะเขือเปราะไม่ดำครับน้ำเปล่าแล้วก็เติมเกลือลงไปเล็กน้อยครับสลายให้เข้ากันดีเลยนะครับแล้วก็มะเขือเปราะที่เราล้างทำความสะอาดไม่เรียบร้อยแล้วนะครับนำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดตามความต้องการได้เลยครับอยากลูกไม่ใหญ่ผมจะหั่น 4 ส่วนครับแล้วก็นำหนูไปแช่ในน้ำเกลือหน่อยนะครับอันนี้ก็จะเป็นเทคนิคครับที่จะทำให้เวลาที่เราหันมาจากปอดเสร็จแล้วอ่ะก่อนที่เราจะนำไปปรุงเนี่ยมะเขือเปราะจะไม่ดำนะเสร็จแล้วเราก็มาลงมือทำกันเลยครับก่อนอื่นเราก็มาดูส่วนผสมทั้งหมดกันเลยนะครับก็จะมีเป็นมะเขือเปราะที่เราหั่นแล้วก็แช่น้ำไว้เมื่อสักครู่นะน้าหมูครับวันนี้ผมก็จะใช้เป็นหมูที่หั่นสไลด์อย่างนี้ครับบางๆนะประมาณ 2 มิลพริกแกงเผ็ดครับใบโหระพาใบมะกรูดครับมะเขือพวงพริกชี้ฟ้าแดงหัวกะทิหางกะทิเสร็จแล้วเราก็จะปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บแล้วก็น้ำปลานะครับโอเคครับเดี๋ยวเรามาเริ่มลงมือทำกันเลยครับเป็นเตาก่อนนะครับหัวกะทิครับพอประมาณนะวันนี้ผมเลือกใช้เป็นกระทะครับจะได้มองเห็นชัดขึ้นนะครับก่อนอื่นให้เราผัดหัวกะทิด้วยไฟกลางก่อนเลยนะครับหรือจะเป็นเทคนิคนะครับที่จะทำให้เราทำแกงเผ็ดหมูมะเขือเนี่ยออกมาได้สวยงามน่ารับประทานแล้วก็กลิ่นหอมเนี่ยนะครับเราจะยังไม่ได้ใช้เป็นส่วนของน้ำมันพืชในการผัดพริกแกงนะครับเป็นเทคนิคแบบโบราณเลยนะครับผัดหัวกะทิไปเรื่อยๆครับใช้ไฟกลางๆนะผัดให้หัวกะทิแตกมันดีเลยนะครับแต่ก็เป็นสมัยนี้ครับเขาก็จะนิยมใช้เป็นน้ำมันพืชครับมาผัดพริกแกงนะครับเพราะว่าสะดวกแล้วก็ง่ายครับแต่ว่าจะทำหอมอร่อยของ Swatch กันอีกแล้วนะครับเกี่ยวกับโบราณก็ใช้วิธีนี้นะครับผัดผงกะทิไปเรื่อยๆก่อนเลยครับเพื่อให้แตกมันก่อนนะครับแล้วเราก็จะใช้ในส่วนของน้ำมันที่เราผัดจากหัวกะทิมาได้นะครับไปผัดกับจะได้ทั้งความหอมอร่อยแล้วก็สีสันที่สวยงามด้วยครับนะครับท่อน้อยสังเกตว่านาทีที่เราผัดมาเริ่มงวดแห้งครับก็เติมหัวกะทิเข้าไปครับแล้วก็ผัดต่อไปเรื่อยๆครับสังเกตนะกะทิรอบแรกก็จะเริ่มแจกมันนะครับเป็นน้ำมันรออยู่ตามขอบกระทะแล้วไปลองผัดกะที่เราเติมเอาไปครับให้แตกมันอีกรอบนะค่อยหมั่นคนไปเรื่อยๆด้วยนะครับจะได้ไม่ไหม้ตามขอบกระทขอบหม้อนะครับแม่ครับเพราะเราผัดหัวกะทิไม่ได้สักพักนึงครับสังเกตว่าเริ่มมีกลิ่นหอมแล้วก็กะทิจะแตกมันดีนะครับเนี่ยขอหยุดคนกะทิเริ่มเป็นรอยเป็นน้ำมันก็ใช้ได้แล้วครับก็ตามด้วยพริกแกงเผ็ดครับปริมาณของพริกแกงนี้ก็ตามความต้องการได้เลยนะครับใครชอบทานเผ็ดมากน้อยแค่ไหนสงสัยไปหมดเลยครับไปกลางต่อไปเรื่อยๆนะครับผัดเพื่อให้กะทิแตกมันดีแล้วก็พริกแกงออกกลิ่นหอมดีก่อนเลยนะครับทำตอนนี้ก็จะเป็นเทคนิคสำคัญเลยนะครับที่จะทำให้เราทำแกงหมูมะเขือเปราะออกมาสีสันสวยงามแล้วก็กลิ่นหอมอยู่น่ารับประทานด้วยครับต้องใจเย็นๆครับผัดไปเรื่อยๆเลยนะได้ครับเพราะเราสังเกตว่าเราผัดพริกแกงมาจนได้กลิ่นหอมดีแล้วนะครับแล้วก็เนี่ยครับกะทิก็จะแตกมันก็ให้เราเต็มหัวกะทิลงไปอีกครับปริมาณหัวกะทีนี่ปรับเพิ่มลดได้ตามความต้องการเลยนะครับใครชอบทานให้ตัวแกงมีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหนครับถ้าเกิดชอบทานแบบเข้มข้นหน่อยก็ใช้หัวกะทิเยอะหน่อยครับสบายกับใครชอบแบบให้เป็นน้ำหน่อยก็เติมในส่วนของทางกะทิเยอะหน่อยก็ได้ครับผัดเคี่ยวต่อไปเรื่อยๆครับให้กะทิพอที่จะเริ่มแตกมันเล็กน้อยพอแล้วครับขั้นตอนนี้อันนี้เราไม่ต้องผัดนานเหมือนรอบแรกนะครับกินกับพอกะทิเดือดดีแล้วพี่ก็จะเติมเงินสดของหางกะทิเข้าไปแล้วครับดูพ่นแล้วก็ปริมาณน้ำเอาได้เลยนะครับกับเพื่อนมดได้มีใช้ไฟแดงได้เลยนะครับต้มให้กะทิกลับมาเดือดอีกครั้งก่อนครับอันนี้กลิ่นของพริกแกงที่หอมฟุ้งดีมากเลยครับต้องผัดให้พริกแกงออกกลิ่นหอมดีเลยนะครับแล้วก็สังเกตนะครับเนี่ยพอเราหยุดคนเราก็จะเห็นเป็นน้ำมันที่ลอยหน้าเลยครับอันนี้จะเป็นน้ำมันที่เราได้จากการผัดหัวทีล้วนๆเลยนะครับไม่จำเป็นต้องใส่น้ำมันพืชลงไปช่วยเลยนะเฮียครับข้อสังเกตว่าน้ำแกงเราเริ่มกลับมาเดือดอีกครั้งครับก็ตามด้วยเนื้อหมูได้เลยครับยินดีให้แค่พอกระจายก็พอนะครับนะครับปล่อยทิ้งไว้สักครู่ครับตอนนี้เขารอสังเกตว่าน้ำแกงกลับมาเดือดจัดได้ที่แล้วนะครับก็ตามด้วยมะเขือเปราะที่เราลาเราก็ขยำๆมะเขือสักครั้งนึงนะครับเสร็จแล้วก็หยิบมะเขือสะเด็ดน้ำแล้วก็ใส่ลงไปได้เลยนะครับเทคนิคสำคัญคือเราต้องรอให้น้ำแกงกลับมาจัดจานอีกครั้งก่อนนะครับก่อนที่เราจะใส่มะเขือไปนะครับหรือจะเป็นเทคนิคอย่างนึงครับที่จะช่วยทำให้เวลาที่เราเขียนเสร็จแล้วมะเขือจะขาวสวยดูน่าทานครับไม่ดำทยอยหยิบแต่งไปได้เลยครับใช้ไฟแดงต่อเนื่องเลยนะครับใส่น้ำมันเสร็จแล้วก็คนให้เข้ากันดีเลยครับวันนี้เราหมั่นคอยคนสักครู่นะครับเพื่อให้มะเขือเปราะโดนความร้อนทั่วๆกันครับความร้อนก็จะช่วยทำให้มะเขือยังขาวสวยอยู่ครับไม่ดำได้ครับเป็นเทคนิคเลยครับมีให้เราสังเกตปริมาณน้ำด้วยนะครับถ้าเกิดน้ำน้อยเกินไปเราสามารถเติมในส่วนของหัวกะทิหรือว่าหางกะทิเพิ่มก็ได้ครับไม่ค่อยมันคนให้โดนความร้อนทั่วๆกันครับเสร็จแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ได้เลยครับระยะเวลาการต้มของมะเขือเนี่ยครับก็ขึ้นอยู่กับความชอบได้เลยนะครับใครชอบทานมะเขือที่นิ่มหน่อยก็ให้ต้มนานนิดนึงครับแต่ใครชอบทานมะเขือแบบยังกรอบๆก็ต้มแป๊บเดียวก็ใช้ได้แล้วครับเดี๋ยวผมทานกับผู้สูงอายุครับผมก็จะต้มนานนิดนึงนะครับเพื่อให้มะเขือออกนิดหน่อยนะจะได้ทานง่ายๆยิ่งขึ้นครับมะเขือพวงก็เช่นกันนะครับใครชอบทานนิ่มๆจะใส่ลงไปพร้อมกับมะเขือเปราะเลยก็ได้เช่นกันนะครับแต่แกใครชอบแบบให้มะเขือเปราะนิ่มหน่อยแต่ว่ามะเขือพวงยังมีความกรอบอีกนิดก็ใส่ทีหลังครับอย่างเงี้ยผมจะใส่กระป๋องก่อนแล้วก็ฉันกับพวกที่หลังครับกำลังขับต่อสักครู่หนึ่งครับเอาน้ำแข็งกลับมาเดือดดีแล้วเดี๋ยวผมจะปรุงรสชาติก่อนเลยนะครับน้ำตาลปี๊บครับก็น้ำปลาครับน้ำปลานี่แนะนำว่ายังไม่ต้องใส่เยอะนะครับตอนแรกเพราะว่าในส่วนของพริกแกงจะมีความเค็มมาด้วยครับพริกแกงแต่ละเจ้าก็จะเค็มไม่เท่ากันนะทยอยเติมเอานะครับรอให้น้ำแกงเดือดดีครับแล้วก็น้ำตาลละลายดีนะครับเพราะสังเกตว่าน้ำตาลละลายเข้ากันดีแล้วก็ลองชิมรสชาติดูนะครับOk เลยครับอร่อยเลยกินพริกแกงกับหอมดีมากด้วยหอมแล้วก็ที่ทำพริกแกงครับตอนนี้มะเขือเปราะก็เริ่มที่จะนิ่มนะครับผมพอใจแล้วเขาตามด้วยมะเขือพวงได้เลยครับปริมาณก็ตามความต้องการได้เช่นกันนะครับถ้าเกิดควงก็เช่นกันนะครับต้องรอให้น้ำร้อนจัดครับก่อนที่เราจะใส่ลงไปนะจะช่วยทำให้มะเขือพวงก็ไม่ดำเหมือนกันครับแต่หนูไปแล้วเขาเห็นคนๆเหมือนกันเลยครับให้โดนความร้อนให้ทั่วกันกินต้มแค่ครู่เดียวพอครับมากับพวงเสร็จแล้วก็ตามด้วยพริกชี้ฟ้าแดงครับอันนี้มาตกแต่งเพิ่มความสวยงามนะครับแล้วก็ใบมะกรูดครับร้านทำความสะอาดเด็ดเส้นกลางออกให้เรียบร้อยนะครับใบโหระพาก็เช่นกันปริมาณมากน้อยตามความชอบได้เลยนะครับชอบทานหอมๆก็จะใส่ใบโหระพาเยอะหน่อยครับใช้ไฟแรงได้เลยนะครับเร่งให้เดือดขึ้นมาเลยนะแล้วก็คนให้เข้ากันดีครับกลิ่นหอมดีมากครับน่าทำสุดเลยครับเท่านี้ล่ะครับเสร็จเรียบร้อยแล้วปิดเตาได้เลยครับทำง่ายมากครับแล้วก็สีสันดูน่าทานสังเกตุดูนะครับมะเขือเปราะขาวสวยอยู่เลยครับต้มยำเสร็จแล้วกระโปรงก็สวยเช่นกันครับนี่เลยแกงหมูมะเขือเปราะครับหมูนุ่มๆครับทานกับมะเขือเปราะแล้วก็มะเขือพวงครับน้ำแกงหอมกะทิกับพริกแกงเข้มข้นเลยครับทำง่ายแล้วก็สีสันสวยงามดูน่ารับประทานครับก็ลองนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้กันดูนะครับเพียงเท่านี้เราก็จะทำแกงกะทิแบบโบราณสวยงามแล้วก็ดูน่าทานมากยิ่งขึ้นขอบคุณที่ติดตามรับชมนะครับถ้าเกิดชอบก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กด Subscribe แล้วก็อย่าลืมกดกระดิ่งไว้ด้วยนะจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆของเราสำหรับวันนี้เดี๋ยวผมขอตัวไปก่อน